Search

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: แรงขายทำกำไรฉุดทองปิดร่วง 20.6 - อาร์วายที9

nycpolitic.blogspot.com

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 20 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 20.6 ดอลลาร์ หรือ 1.14% ปิดที่ 1,779.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 41.9 เซนต์ หรือ 2.25% ปิดที่ 18.218 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 16.8 ดอลลาร์ หรือ 1.97% ปิดที่ 834.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 36.20 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 1,930.70 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อันเนื่องมาคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยเมื่อคืนนี้ด้วย โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.369 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะเดียวกัน ADP ได้ปรับตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนพ.ค. โดยรายงานว่ามีการจ้างงานพุ่งขึ้น 3.065 ล้านตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่า การจ้างงานลดลง 2.76 ล้านตำแหน่ง

ทางด้านผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 52.6 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว จากระดับ 43.1 ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49.5

ทั้งนี้ ข้อมูลของ ISM สอดคล้องกับที่ไอเอชเอส มาร์กิต รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 49.8 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 39.8 ในเดือนพ.ค.





July 02, 2020 at 07:23AM
https://ift.tt/3gjsNLq

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: แรงขายทำกำไรฉุดทองปิดร่วง 20.6 - อาร์วายที9

https://ift.tt/2XDWT5R


Bagikan Berita Ini

0 Response to "ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: แรงขายทำกำไรฉุดทองปิดร่วง 20.6 - อาร์วายที9"

Post a Comment

Powered by Blogger.